โบท็อกซ์สามารถแก้ปัญหาน่าอายอย่างรักแร้เปียก กลิ่นตัวเหม็นได้

5 ปีที่แล้ว
blog
    รักแร้เหงื่อออกมาก  กลิ่นตัวแรงเน่าเหม็น  ปัญหาน่าหนักใจสำหรับหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่ทำให้คนรอบข้างต้องหนีห่าง  แน่นอนว่าคงไม่มีใครที่รับได้  เรื่องของกลิ่นตัว  หรือเหงื่อออกมากเกินผิดปกติไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ที่จะพูดถึงกันเลย  วันนี้เราจะมาศึกษาถึงสาเหตุ  พร้อมด้วยวิธีการแก้ปัญหากันนะครับ

โดยปกติร่างกายคนเราจะผลิตเหงื่อออกมาเป็น  2  ชนิด  คือ  Eccrine  (เหงื่อที่ขับออกมาจากร่างกายเพื่อลดอุณหภูมิขึ้นอย่างเฉียบพลัน ) และ Aprocine  (เหงื่อที่ร่างกายผลิตจากต่อมโดยปกติ)  โดยเหงื่อ Aprocine  มีส่วนประกอบของไขมัน  และโปรตีนซึ่งเป็นอาหารชั้นดีของแบคทีเรีย  ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวแรง  ส่วนกรณีเหงื่อออกมาเกินไป  หรือ  ภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ  ( Hyperhidrosis )  มีลักษณะเป็นเหงื่อออกมากทั่วตัว  หรือเหงื่อออกมากเฉพาะที่ก็ได้  ซึ่งมักเกิดบริเวณฝ่ามือ  ฝ่าเท้า  ทำให้เปียกชื้นตลอดเวลา  และทำให้ทำกิจวัตรประจำวันลำบากมากขึ้น  หรือบริเวณรักแร้  มีลักษณะวงแขนเปียก  ชุ่มเป็นวงด่าง  ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดของกลิ่นตัว

กลิ่นตัวแรง  สาเหตุเกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่เข้าไปฝังตัวอยู่ตามจุดต่าง ๆ ในร่างกาย  ไม่ว่าจะบริเวณรักแร้  ขาหนีบ  อวัยวะเพศ  หรือท้ายทอย  แล้วไปทำปฏิกิริยากับต่อมเหงื่อด้วยการย่อยสลายเหงื่อเองจนทำให้เกิดเชื้อรา  และกรดไขมัน  เป็นเหตุให้เกิดความอับชื้น  และเกิดกลิ่นตัวตามมา  โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวมีได้หลายอย่าง  เช่น  พันธุกรรม  เชื้อชาติ  อาหาร  ความสะอาด  ฮอร์โมน  เป็นต้น

ปัจจุบันทางการแพทย์สมัยใหม่สามารถแก้ปัญหาภาวะเหงื่อออกมาก  กลิ่นตัวแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ  และเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายโดยไม่ต้องรับการผ่าตัดให้ต้องเจ็บตัว  ด้วยวิธีการฉีดโบท็อกซ์  ( Botulinum Toxin )  เข้าไปบริเวณรักแร้เพื่อออกฤทธิ์ยับยั้งการสั่งงานของเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงต่อมเหงื่อ  และทำให้ต่อมกลิ่นบริเวณใต้วงแขนให้สามารถทำงานได้ลดน้อยลง  ซึ่งมีระยะเวลาให้ผลประมาณ  3-4  เดือนขึ้นไป  โดยต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์เฉพาะทางในการฉีดที่แม่นยำ  และการคำนวณปริมาณการฉีด 

ปกติแล้วคนส่วนใหญ่คิดว่าโบท็อกซ์นำมาใช้เพื่อรักษาริ้วรอยเหี่ยวย่นได้เท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วการฉีดโบท็อกซ์มีประโยชน์มากกว่าที่คิด โบท็อกซ์สามารถลดภาวะอาการเหงื่อออกได้ มีการศึกษาพบว่าสามารถช่วยลดเหงื่อ และกลิ่นตัวได้ประมาณ 35-80% โดยหลังฉีดโบท็อกซ์ จะเริ่มเห็นผลว่าเหงื่อลดลงตั้งแต่ช่วง 1-3 วันแรก ส่วนผลลัพธ์การรักษาอยู่ได้ประมาณ 4-12 เดือนต่อการรักษาแต่ละครั้ง แต่ไม่สามารถรักษาได้ถาวร เพราะโบท็อกซ์จะสลายไปเองตามเวลา

ดังนั้นการฉีดโบท็อกซ์คืออีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่มีปัญหาเหงื่อออกมากผิดปกติ หรือกลิ่นตัวแรง ซึ่งก่อนจะติดสินใจทำควรศึกษาให้เข้าใจ และปรึกษาแพทย์เฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญเป็นการครับ

Relate Blog Contents