เจาะลึกศัพท์ครีมกันแดด จะได้ไม่ยืนงงในดงครีม

5 ปีที่แล้ว
blog

ปัญหาใหญ่เวลาที่เราจะซื้อครีมกันแดดสักตัวคืออะไร ใช่เลย พวกคำ สัญลักษณ์ หรือตัวเลขที่อยู่บนฉลาก เช่น SPF30, PA++, UV, UVA, UVB ฯลฯ ทำให้เราปวดหัวสับสนไปหมด การที่เราไม่รู้ความหมายที่แท้จริงทำให้ผิวของเราถูกทำร้ายอยู่เบาๆ สมาคมเภสัชกรรมอังกฤษได้สำรวจคนอังกฤษจำนวน 2,000 คนในปี 2015 พบว่า มีแค่ 8% เท่านั้นที่รู้ความหมายที่แท้จริงของค่า SPF บนฉลากผลิตภัณฑ์ แล้วคุณล่ะ รู้ความหมายของค่าเหล่านี้ไหม ?? ไม่เป็นไรลองไปดูพร้อมๆ กันเลย UV รังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสียูวี ประกอบด้วยรังสี UVC, UVB, และ UVA โดยมีแหล่งกำเนิดที่สำคัญคือแดด UVA เป็นรังสีที่มีในแดดถึง 95% สามารถผ่านทะลุกระจกและผ่านเข้าสู่ผิวหนังชั้นลึกได้ และจะไปทำลายโครงสร้่างของเซลล์ผิว แปลงสภาพ DNA จนอาจก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง ทำลายคอลลาเจน ทำให้เกิดริ้วรอยแห่งวัย ฝ้า กระ จำง่ายๆ ว่า UV(Aging) UVB มีประมาณ 5% ในแดด ไม่สามารถทะลุกระจกได้ โดยสามารถทะลุได้ถึงชั้นหนังกำพร้าเท่านั้น จึงเป็นสาเหตุให้เกิดผิวไหม้แดด ฝ้า กระ มะเร็งผิวหนัง และทำลายคอลลาเจน จำง่ายๆ ว่า UV(Burning) SPF ย่อมาจาก Sun Protection Factor เป็นค่าป้องกัน UVB ตัวอย่างเช่น SPF15 เป็นการระบุว่าสามารถป้องกันผิวได้ 15 เท่ากว่าปกติที่ไม่ได้ทากันแดด ตัวอย่างเช่น หากผิวสู้แดดได้ปกติ 15 นาที หากทาครีมกันแดด SPF15 ก็จะได้ทนได้ 15x15 = 225 (3.75 ชม. โดยประมาณ แต่ขึ้นกับปัจจัยอื่นอีกที่จะทำให้ระยะเวลาในการป้องกันลดลง เช่น เหงื่อ น้ำ) PA ย่อมาจาก Protection Grade of UVA เป็นค่าป้องกันรังสี UVA ครีมกันแดดฟิสิคัล ครีมกันแดดฟิสิคัลมีส่วนผสมหลักของสาร Titanium Dioxide และ Zinc Oxide ที่ทำหน้าที่สะท้อนรังสี UVA และ UVB ออกจากผิวหนัง เหมาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่าย แต่เนื้อครีมค่อนข้างหนักกว่าแบบเคมีคอล ครีมกันแดดเคมีคัล มีส่วนผสมของสารเคมีที่จะดูดซับรังสียูวีเข้าไปและก่อให้เกิดสารใหม่ที่ทำหน้าที่ปกป้องผิว จึงอาจไม่เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย แต่เนื้อครีมจะเบาบางกว่าครีมกันแดดแบบฟิสิคอล ครีมกันแดดชนิดผสมฟิสิคัลและเคมีคัล เป็นครีมกันแดดที่เป็นส่วนผสมระหว่างชนิดฟิสิคัลและเคมีคัล เหมาะกับผิวแพ้ง่าย

Relate Blog Contents