ผิวหนังไก่ในตำนาน ปัญหานี้จงหลุดลอยไป

5 ปีที่แล้ว
blog
อยากอวดผิวสวยเนียนใสให้ใครต่อใครต่างอิจฉา  แต่กลับกลายเป็นว่าเราดันเป็นผิวหนังไก่  เห็นแล้วคงท้อใจไม่ว่าใครก็ไม่อยากเป็น  แล้วผิวหนังไก่คืออะไร  ปัญหาแบบนี้เราจะทำอย่างไร ต้องดูแลตนเองอย่างไร  วันนี้เรามาดูกันครับ 

ผิวหนังไก่  หรือที่เรียกกันว่าโรคขนคุด  ( Keratosis Pilaris )  ซึ่งโรคนี้เป็นปัญหาทางผิวหนังที่พบได้เยอะมาก  สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งทุกเพศทุกวัย  ลักษณะอาการจะเกิดมีตุ่มขนาดเล็ก ๆ ขรุขระบนผิวหนัง  ผิวสากไม่เรียบเหมือนหนังไก่  สาเหตุเป็นเพราะการอุดตันของโปรตีนเคอราติน  ( Keratin )  ในรูขุมขนทำให้ขนไม่สามารถงอกพ้นผิวหนังได้ตามปกติ  จึงเกิดเป็นตุ่มตามรูขุมขน  โดยอาจมีลักษณะแดงล้อมรอบไปด้วยสีชมพูระเรื่อ  หรือมีอาการคันอักเสบร่วมได้ด้วย  ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นสิว  โรคนี้ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้  แต่ไม่อันตรายร้ายแรง  และไม่ใช่โรคติดต่อ  เพียงแค่ทำให้เสียความมั่นใจต่อภาพลักษณ์เท่านั้น  โดยแนวโน้มปัจจัยที่มีส่วนสามารถกระตุ้นให้เกิดผิวหนังไก่  หรือโรคขนคุด  คือ  พันธุกรรม  อากาศเย็น  ผิวแห้ง  เป็นโรคหอบหืด  ( Asthma ) โรคภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ  ( Atopic Dermatitis )  หรือโรคผิวหนังเกล็ดปลา ( Ichthyosis Vulgaris )  เป็นต้น

ผิวหนังไก่  หรือ  โรคขนคุด มีวิธีปฏิบัติดูแลรักษาเพื่อปรับความรุนแรงของรอยโรคด้วยตนเองเบื้องต้นได้ง่าย ๆ เช่น  หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนเกินไป  ห้ามแคะ  แกะ  เกา  หรือขัดผิวอย่างเด็ดขาด  ใช้สบู่อ่อนที่เหมาะสำหรับผิวที่แห้งหรือผิวที่แพ้ง่าย  ทาโลชั่นหรือครีมหลังอาบน้ำเช้าเย็นจำพวกที่มีส่วนผสมของ  Alpha Hydroxyl Acid ,

Glycolic Acid , Lactic Acid , Salicylic Acid , Urea , Glytone , Moisturizer ควรหมั่นออกกำลังกาย และนอนพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นต้น แต่ในบางรายอาจมีความรุนแรงของโรคค่อนข้างมาก อาจต้องเข้าปรึกษากับแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางเพื่อประสิทธิภาพในการรักษา ความเหมาะสม และความปลอดภัยครับ

มีวิธีการหนึ่งที่ทางการแพทย์ยอมรับว่ามีประสิทธิภาพได้ผลดี  และเป็นที่นิยมอย่างมาก  คือ  การทำเลเซอร์กำจัดขน ( Hair Removal )  ซึ่งจะช่วยลดปริมาณตุ่มผิวหนังไก่จากขนที่ไม่สามารถงอกได้ตามปกติ  แต่ต้องรักษากับแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางโดยตรงเพราะแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาชนิดของเลเซอร์เพื่อช่วยลดอาการบวมและแดง  มีผู้เป็นผิวหนังไก่หลายรายประสบความสำเร็จจากการรักษาด้วยแสงเลเซอร์ได้อย่างดีเยี่ยม  แถมราคาค่าใช้จ่ายในการรักษายังไม่แพง  แต่ก็ขึ้นอยู่กับการตอบสนองทางร่างกายของแต่ละคนต่อการรักษาด้วย 

วิธีการดูแล และรักษาข้างต้นไม่ได้ทำให้หายขาดจากโรค  แต่จะช่วยให้โรคสงบลง  และลดอาการกำเริบของโรค  การรักษาที่ต่อเนื่องจะส่งผลให้ผลลัพธ์ของการรักษาดีกว่า  ดังนั้นการดูแลรักษาผิวหนังไก่ต้องทำการศึกษา  มีความใส่ใจ  มีวินัย  รักษากับแพทย์เฉพาะทางด้วยความต่อเนื่องสม่ำเสมอครับ

Relate Blog Contents