แพ้เกสรดอกไม้

นอกจากแพ้ใจ❤️เธอแล้ว ยังแพ้เกสรดอกไม้🌹ด้วยนะ (Pollen Allergy) ฮิ้ววววว 😁😝😘 . ช่วงเทศกาลความรักที่ใครต่อใครหลายคนต่างรอดอกไม้จากคนรักอย่างใจจดใจจ่อ แต่บางคนกลับไม่พึงปรารถนาอยากจะได้มาสักเท่าไหร่ เพราะดอกไม้สวยงามเหล่านั้นอาจส่งผลให้ป่วยหนัก สร้างความรำคาญ และทำให้ทรมานได้ วันนี้เรามาดูสาเหตุที่มา และวิธีการควบคุมดูแลปฏิบัติตนเองอย่างถูกวิธีจากโรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้กันเถอะครับ ☺️ . 😷โรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้ (Pollen Allergy) คืออะไร🌹 โรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้ (Pollen Allergy) คือโรคภูมิแพ้ที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ อาจเป็นได้ทั้งการแพ้ตามใบหน้า หรือผิวหนังบริเวณอื่น ๆ มีที่มาจากการฟุ้งกระจายของเกสรดอกไม้ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าปลิวมาตามอากาศ ซึ่งเมื่อร่างกายได้รับสารกระตุ้นจากเหล่าเกสรดอกไม้นี้ ก็จะเกิดปฏิกิริยาขึ้นมาซ้ำ ๆ จนทำให้เกิดการหลั่งสารภูมิแพ้ชื่อ “ฮิสตามิน (Histamin)” ส่งผลทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ จาม อาเจียน คัดจมูก มีน้ำมูก น้ำตาไหล เป็นผื่นแดงคัน ผิวหนังอักเสบ หรือเป็นโรคหืด และโรคลมพิษขึ้นได้ แล้วแต่ปฏิกิริยาภูมิแพ้ในแต่ละบุคคลที่จะแสดงอาการแตกต่างกัน . 💁‍♀️การดูแลตัวเอง🏃‍♀️ ต้องยอมรับว่าโรคภูมิแพ้เป็นโรคที่ไม่มียารักษาได้ การรับประทานยารักษาโรคภูมิแพ้เป็นเพียงวิธีบรรเทาอาการโรคชั่วคราวเท่านั้น สิ่งกระตุ้นที่ก่อให้เกิดการภูมิแพ้เป็นอะไรที่ควบคุมและหลีกเลี่ยงได้ยากมาก วิธีการรักษาที่ได้ผลมากที่สุดเมื่อรู้ว่าตนเองเป็นโรคแพ้เกสรดอกไม้คือการระมัดระวังและป้องกันด้วยตัวเราอย่างดีที่สุด เช่น . ✅ หมั่นออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น ✅ อาบน้ำชำระร่างกาย สระผม ล้างจมูกและตาให้สะอาดหลังกลับจากสถานที่ที่มีเกสรดอกไม้ ✅ สวมแว่นตาหรือหน้ากากเมื่อต้องไปในสถานที่ที่มีเกสรดอกไม้ ✅ พยายามปิดหน้าต่างบ้านหรือห้องนอนให้สนิท ✅ ติดตั้งเครื่องกรองอากาศ ✅ ควรเปลี่ยนเสื้อผ้าภายหลังกลับเข้าจากบ้านเพราะเกสรดอกไม้อาจติดมาตามเสื้อผ้าได้ ✅ หมั่นทำความสะอาดบ้าน . การดูแลตัวเองล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ต้องหมั่นดูแลและเอาใจใส่เป็นพิเศษ ลองทำตามวิธีการดูแลตนเองจากโรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้กันนะครับ เพียงเท่านี้การใช้ชีวิตก็จะกลับมาปกติสุขมากขึ้น ห่างไกลจากโรคมากขึ้น แถมยังเพิ่มภูมิต้านทานโรคได้ดีขึ้นอีกด้วยครับ 🥰